top of page
Court Room

ฎีกาและแก้ฎีกา

ฎีกา (ในคดีแพ่ง)

การฎีกาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา 

การขออนุญาตฎีกา ให้ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา พร้อมกับคำฟ้องฎีกา ยื่นต่อศาลชั้นต้นที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งในคดีนั้นภายในกำหนดหนึ่งเดือน นับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์แล้วให้ศาลชั้นต้นรีบส่งคำร้องพร้อมคำฟ้องฎีกาดังกล่าวไปยังศาลฎีกา และให้ศาลฎีกาพิจารณาวินิจฉัยคำร้องให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

ในกรณีที่ศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา ให้คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด ตั้งแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่ง

การที่ศาลฎีกาจะพิจารณาอนุญาตนั้นจะต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ที่บัญญัติ ให้ศาลฎีกาพิจารณาอนุญาตให้ฎีกาได้ เมื่อเห็นว่าปัญหาตามฎีกาเป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย

คดีที่จะขออนุญาตฎีกาไม่ว่าจะเป็นคดีมีทุนทรัพย์เพียงใดหรือไม่มีทุนทรัพย์ คู่ความก็มีสิทธิยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกาได้ และไม่มีข้อจำกัดว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น ปัญหาข้อเท็จจริงก็ขออนุญาตฎีกาได้ แต่ที่ได้รับอนุญาตต้องเป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย 

ปัญหาสำคัญหมายความรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้
1) ปัญหาที่เกี่ยวพันกับประโยชน์สาธารณะหรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน 

2) เมื่อคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ได้วินิจฉัยข้อกฎหมายที่สำคัญขัดกันหรือขัดกับแนวบรรทัดฐานของคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลฎีกา 

3) คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อกฎหมายที่สำคัญซึ่งยังไม่มีแนวคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกามาก่อน 

4) เมื่อคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ขัดกับคำพิพากษาหรือคำสั่งอันถึงที่สุดของศาลศาลอื่น 

5) เพื่อเป็นการพัฒนาการตีความกฎหมาย 

6) ปัญหาสำคัญอื่นตามข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ได้แก่ กรณีดังต่อไปนี้

    1) คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์มีความเห็นแย้งในสาระสำคัญ และศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัย

    2) คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อกฎหมายสำคัญที่ไม่สอดคล้องกับความตกลงระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันกับประเทศไทย

    3) คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ขัดแย้งกันในสาระสำคัญและศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัย

ข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการขออนุญาตฎีกาในคดีแพ่ง มีสาระสำคัญดังต่อไปนี้

การขออนุญาตฎีกา ต้องแสดงถึง

    1) ปัญหาข้อเท็จจริงหรือปัญหาข้อกฎหมายในประเด็นที่ประสงค์ขออนุญาตฎีกา และ

    2) ปัญหาที่ขออนุญาตฎีกานั้นเป็นปัญหาสำคัญซึ่งศาลฎีกาควรรับวินิจฉัย

  

 

bottom of page